พรีวิว พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้
วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 เวลา 23.30 น.
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1 , ID Station
ราคาต่อรอง : ลิเวอร์พูล ต่อ เสมอ
สนาม : แอนฟิลด์
ความพร้อมของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน นาธาเนี่ยล ไคลน์ , เซอร์ดาน ชากิรี่ และ โจเอล มาติป ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด รวมถึงยังต้องรอเช็คสภาพความฟิตของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ด้วย โดยในแดนกลาง หาก เฮนโด้ ฟิตไม่ทัน จะเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ที่ลงมาเล่นแทน ส่วนสามประสานในแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ จะผนึกกำลังกันทะลวงตาข่ายคู่แข่งเช่นเดิม
สถิติ 5 นัดหลังสุด : ชนะ 4 เสมอ 1
แมนฯ ซิตี้ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของทีม จะขาดนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บทั้ง เลรอย ซาเน่ , อายเมริค ลาปอร์ต , โรดรี้ , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ , ดาบิด ซิลบา และ เอแดร์ซอน โดยในแดนกลาง สามมิดฟิลด์จะเป็น อิลกาย กุนโดกัน , เควิน เดอ บรอยน์ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ส่วนในแนวรุก ริยาด มาห์เรซ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จะจู่โจมจากทางริมเส้น และมี เซร์คิโอ อเกวโร่ คอยปิดบัญชีในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า
สถิติ 5 นัดหลังสุด : ชนะ 4 เสมอ 1
สถิติที่เคยพบกันมา 5 นัดหลังสุด : ลิเวอร์พูล ชนะ 2 ครั้ง , เสมอกัน 2 ครั้ง , แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1 ครั้ง
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (GK) , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ , โจ โกเมซ , เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , ฟาบินโญ่ , เจมส์ มิลเนอร์ , จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ , ซาดิโอ มาเน่
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เคลาดิโอ บราโว่ (GK) , ไคล์ วอล์คเกอร์ , จอห์น สโตนส์ , แฟร์นานดินโญ่ , เบนจาแม็ง เมนดี้ , อิลกาย กุนโดกัน , เควิน เดอ บรอยน์ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ริยาด มาห์เรซ , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , เซร์คิโอ อเกวโร่
วิเคราะห์ : ด้วยการที่ แมนฯ ซิตี้ ตามหลังอยู่ถึง 6 คะแนน ทำให้ทีมของ เป๊ป มีเพียงช้อยส์เดียวคือต้องเดินหน้าบุกเข้าใส่เพื่อเอาชนะ ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตาม การทำอย่างนั้นก็เหมือนเข้าทางหงส์แดงที่ถนัดเกมสวนกลับ นอกจากนี้ เรือใบสีฟ้ายังต้องขาดขุนพลตัวหลักไปหลายราย ทั้งยังเป็นการเล่นบนถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยในนัดนี้ โจทย์ของทีมเยือนจึงยากขึ้นไปอีก ดังนั้น ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่เข้าทางเจ้าถิ่นมากกว่า เชื่อว่างานนี้ คล็อปป์ และลูกทีมน่าจะเป็นฝ่ายได้เฮหลังสิ้นเสียงนกหวีด
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1
